โสมแดง ชาวเกาหลีว่าดีต่อสุขภาพ

สมุนไพรที่ช่วยดูแลสุขภาพได้ หนึ่งในนั้นคงต้องยกให้กับ โสม โดยเฉพาะโสมแดง ซึ่งหากขึ้นชื่อมากที่สุดก็ต้องเป็น โสมแดง ของประเทศเกาหลีที่ดีมาก ๆ ถึงกับมีฉายาว่าเป็น ราชาแห่งสมุนไพร ด้วยคุณประโยชน์มากมาย แค่เพียงบางส่วนของมันก็สามารถช่วยในเรื่องสุขภาพได้มากมาย เช่น บำรุงสมอง เพิ่มกำลัง ซึ่งโสมไม่ได้เพียงแค่มีไว้ให้คนที่อายุมาก ๆ ทาน เท่านั้น แต่คนหนุ่มสาวก็สามารถทานได้เช่นกัน

ในปัจจุบันนี้มีเชื้อไวรัสที่ระบาดไปทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ไวรัสโคโรนา ไข้หวัดใหญ่ ไข้หวัดนก ซึ่งบางโรคก็สามารถรักษาและป้องกันได้ดี แต่บางโรคอย่างเช่น ไวรัสโคโรนา ก็ยังคงระบาดอยู่ในช่วงนี้

ภายใต้เหตุการณ์นี้ ยังมีสมุนไพรที่ ช่วยสร้างเสริมระบบภูมิต้านทานให้ร่างกาย ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในประเทศประเทศเกาหลีเป็น“โสมแดง” เนื่องจากว่าคนประเทศเกาหลีมั่นใจว่าการทานโสมแดงเป็นของกินที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันให้ดียิ่งขึ้นได้

ทั้ง อย. ของประเทศเกาหลี ยังให้การยืนยันความสามารถของโสมแดงว่า ส่งผลสำหรับ เพื่อการช่วยสร้างเสริมระบบภูมิต้านทานแล้วก็ลดความอ่อนแรง เมื่อยล้าได้ดีเยี่ยม

ในปี 2004 ดร.ฮิโต สถาบันนาโกย่าญี่ปุ่น และก็ทีมงานนักวิจัย ได้มีการทดสอบค้นคว้าเกี่ยวกับ โสมแดง กับคนที่ป่วยราว 12,000 คน ผลของการทดสอบปรากฏว่า มีเพียงแค่ 1.4% ของผู้ที่กินโสมแดงเป็นหวัด แล้วก็ 4.9% ของคนที่กินโสมแดงที่มีลักษณะอาการเป็นหวัด สามารถฟื้นได้รวดเร็วทันใจกว่าคนที่รักษาแบบไม่มีโสมแดงเป็นตัวช่วย 

ในปี 2012 ศ.จ. Lee Chang-Seop จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติจอนบุก ทำการวิจัย โดยการทำการทดสอบกับคน 100 คน ซึ่งปริมาณร้อยละ 50 จาก 100 คน พบว่าการกินโสมแดง ช่วยปกป้องรวมทั้งลดการแพร่กระจายโรคระบบการหายใจได้ด้วยเหมือนกัน

ในปี 2012 โดยศ.จ. Kang Sang-moo จากมหาวิทยาลัยจอร์เจีย มีการเทียบอัตราการหายป่วยของผู้ติดโรคเชื้อไวรัสหวัดสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งผลวิจัยพบว่า การผสมวัคซีนกับโสมแดง สามารถช่วยทำให้มีชีวิตรอดได้มากถึง 100% รวมทั้งถ้าใช้เพียงแต่วัคซีนสิ่งเดียว อัตราการหายป่วยเหลือเพียงแค่ 60% แล้วก็ 40% แค่นั้น

จากผลของการทดสอบแล้วก็ศึกษาค้นคว้าข้างต้น ก็เลยทำให้พวกเรามีข้อมูลพอที่จะสรุปได้ว่า โสมแดง สามารถช่วยกระตุ้นระบบภูมิต้านทาน และก็ต่อต้านเชื้อไวรัสได้อย่างดียิ่ง

หากท่านต้องการดูแลตนเองการทานอาหารเสริมที่เกี่ยวกับโสม หรือมีสารสกัดจากโสมนั้นก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้ แต่หากใครมีโรคประจำตัว แนะนำว่าปรึกษาคุณหมอให้แน่ใจว่าสามารถทานได้อย่างปลอดภัย และไม่ว่าอย่างไรก็ตามควรจะหาเวลาในการออกกำลังกายด้วยอย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์ วันละครึ่งชั่วโมง และควบคุมดูแลการทานอาหารให้เลือกทานสิ่งที่ดีต่อสุขภาพจะดีที่สุด

 

สนับสนุนโดย.  เวปเจตใหม่