สิ่งที่ทำให้เป็นโรคหูติดเชื้อ

ปัจจัยที่เสี่ยงจะเป็นโรคหูติดเชื้อโดยทั่วไปแล้วนั้น คือ

1.น้ำเข้าหูบ่อยๆและมีน้ำขังในหูนานๆอาจจะมาจากการอาบน้ำหรือว่ายน้ำ ปัญหานี้เป็นปัญหาหลักๆของคนส่วนใหญ่เพราะคนส่วนใหญ่จะไม่ทันระมัดระวังและการอาบน้ำก็เป็นกิจวัตประจำวันของคนทั่วไป ฉะนั้นทุกคนก็ต้องระมัดระวัง สังเกตมากขึ้นว่าน้ำเข้าหูหรือไม่ และถ้าหากน้ำเข้าหูจริงๆก็ควรจะเอาน้ำออกจากหูให้เร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้เพราะการที่น้ำเข้าหูนั้นจะทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวกับหูได้และยังทำให้หูอื้อจนถึงอาจจะทำให้เจ็บหูได้เช่นกัน  

2.การได้รับบาดเจ็บด้านในของหูซึ่งเกิดจากการแคะหูบ่อยๆและแคะนานๆหรือการปั่นหูแบบรุนแรงเกิดไปซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไม่ดี เพราะจะทำให้ด้านในของหูเกิดอาการอักเสบ และอาจจะทำให้เกิดแผลในหูที่เป็นสาเหตุของการมีน้ำหนองในหู ซึ่งถ้าหากมีน้ำหนองในหูนั้นจะทำให้เกิดโรคอื่นๆตามมา ไม่ว่าจะเป็นโรคหูน้ำหนวก โรคหูน้ำหนอง ซึ่งการรักษาจะซับซ้อนมาก และใช้เวลานานในการรักษา ถ้าถ้าหากเป็นขั้นที่รุนแรงมากๆหายจะทำให้หูได้รับการบาดเจ็บจนทำให้หูพังและอาจจะทำให้หูตึงได้ฉะนั้นท่านใดที่ยังติดนิสัยแคะหูบ่อยๆหรือว่าปั่นหูแบบแรงๆอยู่ควรจะหยุดพฤติกรรมนี้เพราะมันจะส่งผลระยะยาว ซึ่งอาจจะทำให้หูไม่ได้ยินเลย

3.การมีสิ่งแปลกปลอมต่างๆ เข้าไปในรูหู เช่นแมลงต่างๆ มด หรือฝุ่น และรวมทั้งการมีขี้หูอุดตันมากเกินจนเกินไป ซึ่งถ้าแมลงเข้าไปในรูหู อันดับแรกต้องไปพบแพทย์เพื่อทำการเอาแมลงออกมากจากรูหูเพราะถ้าหากทิ้งไว้นานโดยไม่เอาแมลงออกมานั้นอาจจะทำให้หูอักเสบ เพราะแมลงอาจจะเน่าหรือกัดเนื้อเยื้อที่อยู่ในหูจนทำให้หูเกิดการระคายเคืองได้

4.การเป็นหวัดการเป็นไข้ หรือมีน้ำมูกจำนวนมาก ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคที่เกี่ยวหูได้เช่นกัน เนื่องจากว่าหูชั้นกลาง กับจมูกมีท่อที่เชื่อมกัน เรียกว่าท่อปรับความดัน โดยเวลาที่เราซังเอาน้ำมูกออกมาจากจมูกก็อาจจะทำให้แรงดันแรงเกิดไปจนทำให้กูอื้อ หรือหูดับได้ ซึ่งอันจะรุนแรงมากกว่านั้นคือ อาจจะทำให้แรงดันในหูไม่เท่ากัน

หรืออาจจะให้หูอักเสบเพราะอาจจะมีเศษน้ำมูกไปขังในรูหูจนเกิดการอักเสบจนทำให้มีน้ำหนองในรู้หู ฉะนั้นเวลาที่เป็นหวัดหรือเป็นไข้ จะต้องรักษาให้หายเร็วที่สุดเท่าที่จะสามารถรักษาได้เพราะจะได้ไม่ส่งผลกระทบไปยังอวัยวะส่วน เช่นหูนั้นเอง

 

ขอบคุณผู้ที่ให้การสนับสนุนโดย  เครื่องช่วยฟัง

สาเหตุของหูหนวกหลังคลอดคืออะไร

ก่อนหน้านี้เคยอธิบายถึงสาเหตุของความผิดปกติด้านการได้ยินตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ แล้วว่ามีสาเหตุมาจากอะไรบ้าง 

ซึ่งนอกจากเด็กทารกจะมีปัญหาเกี่ยวกับหูตั้งแต่อยู่ในท้องแม่ได้แล้ว ถึงแม้ตอนคลอดออกมาจะไม่พบความผิดปกติใดๆ แต่ถ้าหากตอนที่คลอดออกมาแล้ว ทารกอาจพบความผิดปกติในภายหลังได้เช่นเดียว ทั้งนี้สาเหตุใหญ่ที่ทำให้มีความผิดปกติด้านการได้ยินหลังคลอดนั้น มีสาเหตุมาจากการเจ็บไข้ได้ป่วยซึ่งมีหลายโรคที่เมื่อเป็นแล้วจะมีอาการแทรกซ้อนทำให้มีผลกระทบกับการได้ยินของหู  โดยแบ่งโรคต่างๆออกเป็นดังนี้ 

  1.  เด็กที่ป่วยด้วยโรคเยื้อหุ้มสมองอักเสบ อาจมีการอาการแทรกซ้อนของโรคที่มีผลกระทบกับการได้ยินได้
  2. เด็กที่ป่วยเป็นโรคมีติดต่อมาจากคนอื่น เช่น การเป็นโรคโรคไข้หวัดใหญ่ คางทูม หัดเยอรมันหรือแม้แต่โรคหัวใจ โรคต่างเหล่านี้หากเรารักษาไม่ถูกต้องหรือไม่ทันกาลจะมีผลกระทบกับการได้ยินเสียงของทารกเหมือนกัน เพราะเชื้อโรคจะแพร่กระจายจากภายในยังโพรงจมูกและมีผลกับหูหรือจากการที่เด็กเป็นโรคที่เกี่ยวกับ คอ หู ปาก จมูกโดยตรงเพราะอวัยวะทั้งหมดเหล่านี้จะมีการเชื่อมต่อถึงกันภายใน ดังนั้นหากจุดใดจุดหนึ่งมีเชื้อโรคจะสามารถลามไปถึงส่วนอื่นได้ด้วย
  3. อีกสาเหตุที่สำคัญคือ การเกิดอุบัติเหตุ เช่น การที่ทารกถูกทำร้าย สมองได้รับความกระทบกระเทือน หรือการตกเปล หรือตกบันได สาเหตุต่างๆเหล่านี้มีผลต่อการได้ยินของลูกน้อยทั้งหมด

           ซึ่งจากสาเหตุที่กล่าวมาข้างต้นนั้น เกิดมาจากโรคภัยไข้เจ็บ และเกิดจากการเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นหากเราต้องการป้องกันไม่ให้บุตรหลานของเราต้องกับปัญหาการได้ยินของหู หรือไม่อยากให้บุตรหลานของเราเป็นโรคหูหนวก จำเป็นที่จะต้องดูแลเอาใจใส่บุตรหลานเป็นอย่างมาก เพราะทารกยังไม่มีภูมิที่แข็งแกร่งพอที่จะต้านทานเชื้อโรคได้ ทางที่ดีที่สุดเมื่อครบกำหนดที่จะต้องฉีดวัคซีน ควรนำทารกไปฉีดวัคซีนทุกครั้งตามที่แพทย์นัด และหากเวลาบุตรหลานไม่สบาย อย่าพยายามซื้อยาให้เด็กรับประทานเอง

ควรพาเด็กไปพบแพทย์จะดีกว่า เพราะเด็กทารกยังไม่สามารถบอกเราได้ว่า เขามีความรู้สึกเจ็บหรือมีปัญหาตรงไหนบ้าง

ดังนั้นในการวิเคราะห์เกี่ยวกับโรคที่เด็กเป็นเราที่ไม่ชำนาญพอจะมีการให้ยาเด็กผิดพลาดซึ่งมีผลกับตัวเด็กเป็นอย่างมาก ควรให้ผู้เชี่ยวชาญ นั่นก็คือให้กุมารแพทย์เป็นผู้รักษาโดยตรง

และที่สำคัญสุดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นกับทารกเราไม่ควรอยู่ห่างจากเด็กทารกเพราะอะไรก็เกิดขึ้นได้ มั่นใจว่าหากมีการดูแลที่ดีมากพอทั้งเรื่องโรคภัยและเรื่องอันตรายจากอุบัติเหตุบุตรหลานของเราจะห่างไกลจากโรคหูหนวกแน่นอน

หากไม่ระวังหรือมีปัญหาปล่อยเรื้อรัง อาจจะทำให้เด็กต้องพึ่ง เครื่องช่วยฟัง ภายในอนาคตก็เป็นได้