รู้หรือไม่ขิงช่วยรักษาสุขภาพได้

รู้หรือไม่ว่าขิงเป็นหนึ่งในสมุนไพรครัวเรือนที่มีความสำคัญและมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะคนส่วนใหญ่ไม่เพียงแต่น้ำขิง มาประกอบอาหารเพียงอย่างเดียว แต่ยังนำมาเป็นยาที่มีส่วนช่วยในการบำรุงรักษาสุขภาพร่างกายได้อีกด้วย ซึ่งหลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าขิงมีสรรพคุณทางยาที่ดีมากๆ

รู้หรือไม่ขิงช่วยรักษาสุขภาพได้ ถึงแม้ว่าจะมีรสชาติที่และกลิ่นที่หลายคนไม่ชื่นชอบกันก็ตาม แต่ก็ยังถือว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย

โดยปกติแล้วเราจะเห็นได้ว่าคนส่วนใหญ่ มักที่จะนำขิงมาประกอบอาหารหรือนำมาเป็นเครื่องเคียงในการรับประทานอาหาร ถึงแม้ว่าจะมีรสชาติที่ไม่ค่อยอร่อยแต่คนส่วนใหญ่ก็ยังนิยมทานเพราะ มีประโยชน์ต่อร่างกายและมีส่วนช่วยในการบำรุงรักษาสุขภาพร่างกายอีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการป้องกันโรค ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ร่างกายได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม

วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูกันว่า เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหากเราทานขิงเป็นประจำนั้นขิงจะมีส่วนช่วยในการรักษาสุขภาพร่างกายของเราอย่างไรบ้างเผื่อว่าใครที่กำลังมองหาสมุนไพรบำรุงร่างกาย จะมีอะไรกันบ้างนั้นไปดูกันเลย

ขิงช่วยลดคอเลสเตอรอลได้ หลายคนอาจจะทราบกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วว่าขิงนั้นเป็นสรรพคุณทางยาที่มีฤทธิ์ร้อน ซึ่งฤทธิ์ร้อนของขิงนั้นก็จะมีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอล ช่วยกำจัดไขมัน อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันของเราให้แข็งแรงได้อีกด้วย ดังนั้นสำหรับใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการลดไขมันหรือต้องการกำจัดคอเลสเตอรอลออกไปจากร่างกายการที่เราเลือกทานขิงหรืออาจจะสกัดขิงเป็นเครื่องดื่ม ก็มีส่วนช่วยในการลดคอเลสเตอรอลได้เป็นอย่างดีเช่นกัน

ขิงช่วยดีทอกซ์สารพิษได้ คนส่วนใหญ่ในสมัยปัจจุบันนี้ไม่รู้ตัวว่าร่างกายของตนเองนั้นได้รับสารพิษไปมากแค่ไหน ซึ่งไม่ว่าการที่ร่างกายของเราบวมไปถึงลำไส้มีสารพิษตกค้างอาจส่งผลกระทบต่อร่างกายของเราได้ ดังนั้นการที่เราเลือกดื่มน้ำขิงหรือน้ำขิงสกัดสด ถือเป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่มีส่วนช่วยในการดีท๊อกลำไส้และดีทอกซ์สารพิษที่ตกค้างภายในร่างกายของเราออกมาได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสารพิษที่ตกค้างอยู่ในตับ อีกทั้งยังมีส่วนช่วยทำให้ระบบการไหลเวียนของน้ำเหลืองในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

ขิงช่วยลดความเสื่อมของเซลล์ได้ เนื่องจากขิงนั้นจะมีส่วนช่วยในการสร้างสารต้านอนุมูลอิสระได้ จึงมีส่วนช่วยในการป้องกันซื้อผิวของเราไม่ให้ถูกทำลายได้ง่าย อีกทั้งยังมีส่วนช่วยในการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนช่วยบำรุงกระดูก และช่วยบำรุงส่วนอื่นๆของร่างกายได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

3 เทคนิคพิชิตร่างกายขาดน้ำ

เทคนิคพิชิตร่างกายขาดน้ำ เนื่องจากน้ำ เป็นส่วนประกบที่สำคัญต่อสุขภาพร่างกาย จำเป็นอย่างยิ่งที่ร่างกายของเราจะต้องได้รับปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อร่างกาย หรืออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

แต่ในสมัยปัจจุบันนี้ประเทศของเราอยู่ในช่วงหน้าร้อนที่ยาวนานมาก ๆ ทำให้คนส่วนใหญ่อาจอยู่ในช่วงของการกระหายน้ำ เนื่องจากแดดแรงเกินไป ทำให้ภายในร่างกายของเรามีอากาศที่ร้อน ซึ่งรู้หรือไม่ว่าน้ำ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยดับความร้อนในร่างกายของเราได้ ช่วยให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่นได้ อีกทั้งยังช่วยคลายความร้อนได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

ซึ่งต้องบอกก่อนว่าน้ำมีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกายของเราเป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแค่ช่วยทำให้ร่างกายของเรารู้สึกสดชื่นได้ แต่ยังช่วยให้ร่างกายของเรามีระบบการทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมาอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากร่ากายของเรากำลังอยู่ในช่วงของการขาดน้ำ อาจทำให้ระบบการทำงานต่าง ๆ ภายในร่างกายทำงานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ จนส่งผลกระทบต่าง ๆ ขึ้นกับร่างกายได้

ฉะนั้น วันนี้เราก็จะมาแนะนำเคล็ดลับง่าย ๆ ในการพิชิตร่างกายหากอยู่ในช่วงของอาการขาดน้ำ จะมีอะไรกันบ้างนั้น ไปดูกันเลย 

หลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย เมื่อไหร่ก็ตามที่ร่างกายของเรากำลังขาดน้ำ ทางที่ดีควรที่จะหลีกเลี่ยงการออกกำลังกาย เพราะจะยิ่งทำให้ร่างกายของเรานั้นเกิดการกระหายน้ำได้มากยิ่งขึ้น และอาจส่งผลกระทบที่ไม่ดีต่อร่างกายของเราได้ ดังนั้น เราไม่ควรหักโหมกับการออกกำลังกายมากจนเกินไป ควรที่จะรักษาระดับน้ำในร่างกายให้อยู่ในปริมาณที่ปกติ เพื่อหลีกเลี่ยงอาการขาดน้ำของร่างกายนั่นเอง 

การดื่มน้ำในอุณภูมิปกติ เนื่องจากภายในร่างกายของเรามีปริมาณความร้อนที่สูงเกินไป    เครื่องช่วยฟังราคาเท่าไหร่     หากเราเลือกที่จะดื่มน้ำที่เย็นจัด เพราะคิดว่าจะช่วยดับความร้อนในร่างกายได้ คุณคิดผิด เพราะการที่ร่างกายของเราเกิดการกระหายน้ำ เราไม่ควรที่จะเลือกดื่มน้ำที่เย็นจัด แต่ให้เลือกดื่มน้ำในอุณภูมิห้อง เพราะจะสามารถควบคุมระดับความร้อนในร่างกายได้ดี แต่หากเราดื่มน้ำเย็นจะทำให้การดื่มน้ำของเราลดน้อยลงได้นั่นเอง 

การจิบน้ำเบา ๆ การที่เราจิบน้ำเบา ๆ แต่จิบเป็นประจำ จะมีส่วนช่วยให้ร่างกายของเรารักษาปริมาณน้ำให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสมได้ อีกทั้งยังช่วยให้ร่างกายของเรานั้นไม่ขาดน้ำได้อีกด้วย ยิ่งในระหว่างวันเราได้ทำกิจกรรมอะไรหลาย ๆ อย่าง เราก็ควรที่จะเลือกจิบน้ำให้บ่อยมากยิ่งขึ้น เพื่อไม่ทำให้ร่างกายรู้สึกระหายน้ำนั่นเอง

จะรู้ได้อย่างไรว่าอ้วนลงพุง

สมัยปัจจุบันนี้เชื่อว่าหนุ่ม ๆ สาว ๆ เป็นกังวลเรื่องของรูปร่างของตนเองเป็นอย่างมาก เพราะบางคนเกิดมาก็ไม่ได้มีรูปร่างที่ดีเสมอไป จำเป็นที่จะต้องสร้างมันขึ้นมาด้วยตนเอง เพราะความอ้วนในสมัยนี้นั้นไม่เข้าใครออกใคร แถมการที่เราอ้วนยังอาจเป็นตัวชี้วัดในการใช้ชีวิตอีกด้วย ซึ่งคนส่วนใหญ่จะมองว่าคนอ้วนเป็นบุคคลที่ไม่สามารถดูแลตัวเองได้

จะรู้ได้อย่างไรว่าอ้วนลงพุง เป็นคนที่ปล่อยเนื้อปล่อยตัวจนทำให้มีน้ำหนักเยอะนั่นเอง แต่รู้หรือไม่ว่า การที่เราอ้วนนั้นเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้น

ซึ่งการที่น้ำหนักเราเพิ่มขึ้นนั้นอาจเกิดได้จากการที่เรารับประทานอาหาร หรืออาจเกิดขึ้นได้หลายสาเหตุ แต่ในอีกมุมมองหนึ่งสำหรับบางคนที่มีรูปร่างที่ผอมอยู่แล้ว ก็อาจจะพอใจในรูปร่างของตนเอง จนไม่คำนึงถึงว่าหากเราไม่ออกกำลังกาย หรือควบคุมการรับประทานอาหารอาจส่งผลให้ร่างกายเสี่ยงต่อการอ้วนลงพุงได้โดยที่ไม่รู้ตัว

และแน่นอนว่าคนส่วนใหญ่ที่ชอบรับประทานอาหารโดยไม่คำนึงถึงผลที่อาจตามมา อาจทำให้เสี่ยงต่อการอ้วนลงพุงแบบไม่รู้ตัวก็ได้ อย่างไรก็ตาม สำหรับใครที่คิดว่าตนเองสุขภาพร่างกายดีอยู่แล้ว แต่อยากรู้ว่าตัวเองนั้นเสี่ยงต่อการอ้วนลงพุงหรือไม่วันนี้เรามีคำตอบค่ะ ซึ่งก็เป็นวิธีการง่าย ๆ ที่จะช่วยให้คุณรู้ว่าคุณอ้วนลงพุงหรือไม่

การวัดรอบเอว สำหรับใครที่เป็นกังวลว่าตนเองนั้นมีความเสี่ยงต่อการเป็นคนอ้วนที่ลงพุง การวัดช่วงเอว จะช่วยเป็นตัวชี้วัดได้ว่าร่างกายของเรานั้นมีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง อีกทั้งยังสามารถบ่ชี้ได้ว่าสุขภาพร่างกายของเรานั้นเป็นเช่นใดบ้าง เพราะการที่เรามีรูปร่างที่ผอมก็ใช่ว่าเราจะไม่ลงพุง เพราะไขมันในร่างกายอาจเกิดการสะสมจนทำให้เราลงพุงได้นั่นเอง 

การวัดดัชนีมวลกาย การที่เราจะรู้ได้ว่าร่างกายสมบูรณ์ หรือมีความสัมพันธ์กันหรือไม่นั้น ควรดูที่ส่วนสูง หรือน้ำหนัก ว่ามีความสัมพันธ์กันมากแค่ไหน ซึ่งสูตรนี้ถือเป็นสูตรการคำนวณเบื้องต้นว่าเราเสี่ยงต่อการอ้วนลงพุงหรือไม่ หรือมีน้ำหนักตัวที่มากเกินไปหรือไม่นั่นเอง 

การเปรียบเทียบน้ำหนักส่วนสูง วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ง่ายมากที่สุดที่จะทำให้เรารู้ว่าเราอ้วนลงพุงหรือไม่ เพราะคนส่วนใหญ่มักที่จะไม่สังเกตุสุขภาพร่างกายของตนเองสักเท่าไหร่ จนส่งผลให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงโดยไม่รู้วตัว ดังนั้น การที่เราเปรียบเทียบน้ำหนัก หรือส่วนสูงให้มีความสัมพันธ์กันจะเป็นตัวที่สามารถชี้วัดได้ว่าคุณอ้วนลงพุงหรือไม่นั่นเอง

 

สนับสนุเนื้อหาต่างๆโดย  เครื่องช่วยฟังผู้สูงอายุ

ทริคการรักษาหุ่นหรือลดความอ้วน แบบคนเกาหลี

 

ทริคการรักษาหุ่นหรือลดความอ้วน เพื่อนๆ และสาวๆ ที่อยากมีหุ่นดี แบบคนเกาหลี วันนี้เราเอาทริคมาแจกกันละ เพราะว่าการที่คนเกาหลีจะมีหุ่นที่ดี หรือ ลดความอ้วนได้ เพราะว่าพวกเธอเองก็มีทริในการดูแลหุ่นหรือลดความอ้วนนะ เราไปตามดูกันเลย 

ดื่มอเมริกาโน่ หรือ กาแฟดำ

เพื่อนๆ และสาวๆ เชื่อหรือไม่ว่า คนเกาหลีทั้งชาย และหญิงนี้กินอเมริกาโน่กันทั้งนั้น และกินได้ทั้งวันด้วย และนี่เองคือทริคหรือเคล็ดลับ ของคนเกาหลีที่หุ่นดี และลดน้ำหนักได้ เพราะว่าการดื่ม อเมริกาโน่ หรือกาแฟดำนั้น จะช่วยทำให้ร่างกายตื่นตัวและเป็นกระตุ้นระบบเผาผลาญร่างกายได้ดีตลอดทั้งวันด้วย แต่หากเพื่อนๆ หรือ สาวๆ คนไหนที่ไวต่อกาแฟ อย่าดื่มเยอะนะ เดี๋ยวจะมีผลต่อการนอนหลับของเราไปด้วย

ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ

 เพื่อนๆและสาวๆ ต้องหันดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ นะ เพราะว่าคนเกาหลี ดื่มน้ำกันเยอะมากๆ เพราะเค้าต้องการให้ร่างกายชุ่มชื้น ผิวพรรณสวยและเลือกดื่มน้ำเปล่าก่อนกินอาหารมื้อหลัก เพื่อให้อิ่มเร็วขึ้นอีกด้วยนะ นอกจากนี้การดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ ยังช่วยลดความหิว ระหว่างวันได้ดีอีกด้วยนะ 

เลี่ยงของทอด ของมัน รวมถึงของหวาน

เพื่อนๆ และสาวๆ อยากหุ่นดีหรือลดความอ้วนได้  เครื่องช่วยฟัง   ต้องหันมาจริงจังเรื่องการงด หรือ เลิก ของทอด ของมัน ของหวานนะ เพราะว่า สาวๆ เกาหลี หรือ คนเกาหลีที่ตั้งใจลดหุ่นหรือ ลดความอ้วน เค้าจริงๆจังกับการเลี่ยงของไม่ดีเข้าสู่ร่างกายเป็นอย่างมาก เพราะว่าเค้าเชื่อว่าการกินอาหารพวกนี้ จะทำให้อ้วนได้เร็ว

ออกกำลังกายให้เยอะ 

คนเกาหลี เค้าหันมาออกกำลังกายกันเยอะมาก ๆเพื่อสุขภาพที่ดีและเพื่อที่จะมีหุ่นที่ตัวเองต้องการ ดังนั้นจะเห็นได้ว่ากิจกรรมที่คนเกาหลีทำแทบจะเป็นกิจวัตรประจำวันไปอีกอย่างหนึ่งแล้วนั้นก็คือการออกกำลังกาย หรือ หากใครที่ไม่สะดวกไปออกกำลังกาย พวกเค้าก็จะพยายามเคลื่อนไหว หรือออกกำลังกายง่ายๆ ที่บ้าน อย่างสม่ำเสมอเลยละ

กินผลไม้ เป็นของว่าง

เพื่อนๆ และสาวๆ ที่อยากผอม เวลาเหงาปากอย่าหยิบขนมมากินนะ ให้เลือกกินผลไม้แทน ผลไม้หวานไม่มากยิ่งดีละ เพราะว่าสาวๆ เกาหลี เค้าหันมากินผลไม้ เวลาหิวหรืออยากกินขนมกันละ สิ่งที่พวกเธอมักเลือกกิน คือ กล้วยหอม แอปเปิ้ล สตรอเบอร์รี่เป็นต้น เพราะว่านอกจากคลายความหิวได้ดีแล้วยังทำให้พวกเธอรู้สึกสดชื่นอีกด้วย เพื่อนๆและสาวๆ ลองทำตามคนเกาหลีดูนะ เพราะว่ามันจะทำให้เพื่อนๆ และสาวๆ หุ่นดีขึ้นอย่างแน่นอน

ลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่ดีกันเถอะ

ลดน้ำหนัก เพื่อสุขภาพที่ดีกันเถอะ เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากมีสุขภาพดี ต้องหันมาดูแล รูปร่างที่ดีและสมส่วนไม่อ้วนไป ไม่ผอมไปนะ แต่วันนี้เราจะมาพูดคุยเรื่องการลดน้ำหนักสำหรับสาวๆ ที่มีน้ำหนักเกินกันละ สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักเรามีคำแนะนำง่ายๆตามนี้เลย

-เลือกเป้าหมายที่ตั้งใจ 

เพื่อนๆและสาวๆ คนไหนที่อยากลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน ควรเริ่มจากการเลือกเป้าหมาย และการตั้งเป้าหมายที่ดี ต้องวางเป้าหมาย ที่เราสามารถทำได้จริง ไม่ใช่ว่าตั้งเป้าหมายแบบทำได้ยากเกินไปมากๆ ไม่งั้นเพื่อนๆและสาวๆ จะท้อเอาก่อนนะ

-ลงมือทำ

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนได้ ต้องเลือกเป้าหมายที่ดีแล้ว ยังต้องลงมือทำด้วย เพราะว่าหากตั้งเป้าหมายอย่างเดียว และไม่ลงมือทำก็จะไม่สามารถถึงเป้าหมายได้เลยนะ ดังนั้นต้องลงมือทำด้วยนะ อะ ไปหยิบเครื่องชั่งน้ำหนักและสายวัดมาวัดตัวกันเถอะ!

-เลือกซื้ออาหารที่มีประโยชน์

เพื่อนๆและสาวๆ คนไหนที่เคยซื้ออาหารเข้าบ้านตามใจตัวเองที่อยากกิน  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหรือใส่ถ่านดีกว่ากัน    ตอนนี้อาจจะต้องหันมามองหรือเลือกซื้ออาหารที่มีประโยชน์ได้แล้วนะ เพราะหากว่าต้องการที่จะลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน การกินอาหารที่ดีจะช่วยทำให้เราลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนได้เร็วกว่าการกินอาหารแบบไม่สนใจเรื่องมีประโยชน์หรือไม่มีประโยชน์เลย

-ตัดของหวาน ของมัน ของทอดต่างๆ

เพื่อนๆและสาวๆ ที่อยากลดน้ำหนักหรือลดความอ้วนได้ไวๆ การเลือกกินอาหารนั้นสำคัญกว่าที่คิดมากๆนะ ดังนั้นเพื่อนๆและสาวๆ ควรจะตัดของหวาน ของมัน ของทอด ต่างๆ เพราะว่าของหวาน อย่างเครื่องดื่มหรือขนมหวาน นั้นน้ำตาลสูง แคลอรี่สูงมาก ส่วนของมันของทอด ก็แคลอรี่สูงและไขมันยังสูงอกีด้วยนะ ต้องตัดก่อนเลยละ 

-ดื่มชาเขียวหรือกาแฟดำสิ ช่วยได้

ใครๆที่ติดการดื่มน้ำหวานระหว่างวัน แนะนำว่าให้เพื่อนๆและสาวๆลองหันมาดื่มชาเขียว หรือ กาแฟดำไม่ใส่นมและน้ำตาลดูนะ เพื่อนๆและสาวๆ จะไม่ค่อยหิวบ่อยและมันยังช่วยเรื่องการที่เราจะระบบเผาผลาญได้ดีขึ้นด้วยนะ ดังนั้นลองหันมาดื่มดูสิ

-พักผ่อนให้เพียงพอ นอนให้มีประสิทธิภาพ

เพื่อนๆและสาวๆ ที่ไม่เคยนอนอย่างเพียงพอ นอนน้อย หรือ หลับไม่ค่อยสนิท มันจะส่งผลต่อระบบการเผาผลาญของเพื่อนๆและสาวๆ ได้เลยนะ ดังนั้นเพื่อนๆและสาวๆควรจะหันมานอนให้เพียงพอหรือพักผ่อนให้ดี เพราะว่าการที่เรานอนได้ดี จะช่วยทำให้เรานั้น มีระบบเผาผลาญไขมันได้ดีด้วยละ

ส่งต่อการลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน ฉบับสาวออฟฟิศ

ลดความอ้วน ฉบับสาวออฟฟิศ เพื่อนๆและสาวๆ คนไหนที่อยากลดน้ำหนัก ลดความอ้วน แบบสไตล์สาวออฟฟิศ ญทางนี้จ้า การที่เราทำงานและชอบปล่อยตัว จนรู้ตัวอีกทีน้ำหนักขึ้นไม่ทันตั้งตัว ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปนะ เพราะวันนี้เรามาส่งต่อการกลดน้ำหนัก หรือลดความอ้วน จากสาวออฟิศตัวจริงมาบอกกัน

-เอาน้ำดื่มวางไว้ข้างโต๊ะ 

เพื่อนๆ และสาวๆ เชื่อหรือไม่ว่าบางทีการที่เรานั่งทำงานแล้วเครียด หรือเหงาปากสิ่งที่เราจะทำก็คือหาอะไรมากินหรือหยิบนู้นนี่มากิน ง่ายๆ เลย เพื่อนๆและสาวๆ แค่เอาน้ำเปล่าขวดเล็ก ขวดใหญ่ หรือแบบไหนก็ได้ไว้ใกล้ๆมือ หิวหรือเหงาปากเมื่อไร หยิบขวดน้ำก่อนเลย และดื่มมันสะ เพราะหากเพื่อนๆ และสาวๆ ดื่มน้ำไปแล้ว มันจะช่วยคลายความหิวได้ด้วยนะ และในบางครั้งที่เราอยากกินนู้นี่ เพราะว่าร่างกายเราหิวน้ำนะไม่ใช่ว่าต้องการกินอะไรเลย เพราะฉะนั้นการมีน้ำวางข้างๆ ช่วยได้เยอะเลย 

-เอาขนมรอบๆตัวทิ้งไปให้หมด หรือเอาออกให้ห่างตัวที่สุด

เพื่อนๆ และสาวๆ คนไหนที่เป็นสายติดขนม รอบตัวนี้ขนมเต็มไปหมด ทั้งซื้อมาตุนเอง ทั้งมีคนให้ แนะนำเพื่อนๆและสาวๆ เลยนะ หากเป็นของตัวเองที่ซื้อมากินทิ้งไปเลยยย เพราะมันจะยั่วยวนให้เราไปหยิบเพื่อกินมันตลอดเวลานั้นเอง ส่วนใครที่ได้มากจากคนอื่นๆ ก็เอาไว้ห่างๆหรือไม่ต้องมองเห็นบ่อยๆ เอาแบบนานๆ กินที่ เพื่อที่จะเฉลี่ยๆกินให้นานๆ วันละนิดๆพอ 

-มื้อกลางวันเน้นเป็นพวกเนื้อสัตว์หรือโปรตีนลีนๆ

เชื่อว่าเพื่อนๆและสาวๆ หลายๆ คนจะมาพังตอนกินกลางวันเนี้ยละ เพราะอาหารตามสั่งหรืออาหารที่เราเลือกกินเองนั้นละ พยายาม เลือกหรือเน้นกินโปรตีนให้เยอะ อย่างเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ไข่ต้ม และเน้นผักมากกว่า คาร์โบไฮเดรตนะ การที่เพื่อนๆและสาวๆ กินโปรตีนเน้นๆช่วงกลางวันจะลดการกินจุกจิก ช่วงบ่ายได้ดีขึ้นด้วยนะ 

-เดินให้เยอะๆ ขยับร่างกายบ่อยๆ 

เพื่อนๆ และสาวๆ ที่นั่งทำงานในออฟฟิศส่วนใหญ่จะนั่งทั้งวันไม่ค่อยได้ลุกหรือเคลื่อนไหวตัวมากหนัก เพราะฉะนั้นระหว่างวันนะ เดินให้มันเยอะๆ หรือ เคลื่อนไหวบ่อยๆ ขยับร่างกายบ่อยๆ อย่างเดินขึ้นลงแทนการใช้ลิฟท์ หรือ เดินไปกินข้าวแทนนั่งรถไป เพราะมันจะช่วยเราเรื่องการลดน้ำหนักได้นะ การขยับตัวบ่อยๆ ก็จะกระตุ้นระบบเผาผลาญได้ดีด้วย

-หันมาดื่มชาเขียว กาแฟดำ แทนน้ำหวานต่างๆ 

เพื่อนๆ และสาวๆ ที่ติดน้ำหวาน ใส่นมเยอะๆ เลิกเลยนะ แนะนำให้หันมาดื่มชาเขียวและกาแฟดำนะ ต้องไม่ใส่น้ำตาลและนมนะ ดีสุดๆ ช่วยเผาผลาญพลังงานเราได้ด้วยนะ

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จ

โรคยอดฮิตที่มาพร้อมกับฤดูร้อน

โรคยอดฮิตที่มาพร้อมกับฤดูร้อน รู้หรือไม่ว่าในช่วงหน้าร้อน นอกจากจะมีสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าวแล้วนั้น ยังเป็นช่วงที่หลาย ๆ คนนั้นต้องเจอกับโรคบางโรคที่มักมาพร้อมกับอากาศร้อน ๆ หรือแดดได้อีกด้วย เพราะปกติแล้วช่วงหน้าร้อนถือเป็นช่วงที่เหมาะสมสำหรับหารเจริญเติบโตของแบคทีเรียบางชนิด จึงทำให้คนส่วนใหญ่ที่ไม่ค่อยได้ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพร่างกายเสี่ยงต่อการเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ได้ง่าย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นโรคยอดฮิตมาก ๆ ในช่วงหน้าร้อน อย่างไรก็ตาม หากเราดูแลรักษาสุขภาพร่างกายของเราให้ดี

ก็สามารถหลีกเลี่ยงจากอาการเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับหน้าร้อนได้ ซึ่งสิ่งสำคัญที่สุดที่เราไม่ควรมองข้ามนั้น ก็คือเรื่องของการรับประทานอาหาร การดูแลในส่วนของร่างกาย หากทำความสะอาดเป็นอย่างดี นอกจากจะทำให้ร่างกายเรารู้สึกสดชื่นได้แล้วนั้น ยังสามารถป้องกันตนเองจากโรคร้ายได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับโรคยอดฮิตที่มาพร้อมกับหน้าร้อน ที่หลาย ๆ คนอาจจะยังไม่รู้ จะมีโรคฮิตไหนกันบ้างไปดูกันเลย 

โรคลมแดดหรือฮีทสโตรก เรียกได้ว่าเป็นโรคที่มาพร้อมกับหน้าร้อนเลยก็ว่าได้ เพราะโรคนี้มีชื่อที่ตายตัวเลยก็คือ โรคลมแดด ซึ่งอาการนั้นเกิดจากการที่ร่างกายมีความร้อนมากเกินไป หรือมีอุณหภูมิภายในร่างกายมากกว่า 40 องศา จนส่งผลให้ร่างกายของเรานั้นระบายความร้อนออกมาไม่ทัน เนื่องจากร่างกายเกิดการสูญเสียน้ำมากเกินไป ที่ออกมาผ่านทางเหงื่อ จึงทำให้คนส่วนใหญ่มีอาการ ชัก ซึม รวมไปถึงเซลล์ของอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกายนั้นเกิดการทำงานที่ผิดปกติ 

โรคอุจจาระร่วง เป็นอีกหนึ่งโรคยอดฮิตที่มาพร้อมกับหน้าร้อนเลยก็ว่าได้ โดยโรคนี้เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้จากการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อโรคปะปนอยู่นั่นเอง นอกจากนี้ยังอาจเกิดขึ้นได้จากการที่เราล้างมือไม่สะอาด ใช้มือหยิบจับสิ่งของที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคมากมาย และนำเข้าปาก จนส่งผลให้มีอาการอุจจาระร่วงนั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วภาวะอุจจาระเหลวนั้นมักจะเป็นติดต่อกันเป็นเวลาประมาณ 1 วัน หรืออย่างน้อยประมาณ 3 ครั้ง โดยผู้ป่วยบางรายนั้นก็อาจมีอาการอาเจียนร่วมด้วย 

โรคอาหารเป็นพิษ ส่วนใหญ่แล้วโรคอาหารเป็นพิษมักเกิดขึ้นจากการรับประทานอาหาร หรือเครื่องดื่มที่มีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน รวมไปถึงอาหารประเภทที่ปรุงสุกบ้างดิบบ้าง โดยผู้ป่วยโรคนี้จะมีอาการท้องร่วงแบบผิดปกติ มีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย ทั้งยังอาจมีอาการรู้สึกปวดท้องเนื่องจากลำไส้เกิดการอักเสบนั่นเอง 

 

สนับสนุนเนื้อหาโดย    เครื่องช่วยฟังแบบชาร์จหรือใส่ถ่านดีกว่า

อายุยืนสำหรับคุณและเพื่อจัวของคุณ

อายุยืนสำหรับคุณและเพื่อจัวของคุณ ความคลั่งไคล้ในการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพได้เกิดขึ้น ผ่านไปแล้ว และกลับมาอีกครั้งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นอาหาร Atkins หรือ Weight Watchers (WTW)

ที่ได้รับความสนใจจากคุณ หรืออาจจะเป็น Jenny Craig, Jared จาก Subway หรือแม้แต่ Richard Simmons เป็นแรงบันดาลใจให้คุณเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตและการกินของคุณ สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือไม่มี การขาดแคลนทางเลือกในการดำรงชีวิตอย่างมีสุขภาพในช่วงหลายปีที่ผ่านมา นี่คืออุตสาหกรรมที่ได้รับแรงผลักดันจากแฟชั่นเล็กๆ น้อยๆ วัฏจักรตามฤดูกาล และแนวโน้มในระยะยาว ทั้งหมดนี้พัฒนาตลอดหลายปีที่ผ่านมาเพื่อนำเรามาถึงจุดนี้ทันเวลา ซึ่งเป็นประตูสู่ความเฟื่องฟูของการมีสุขภาพที่ดี!

แม้ว่าแผนการควบคุมอาหารส่วนใหญ่จะเริ่มดำเนินการต่อไปหลังช่วงปีใหม่ และการลงทะเบียนของสโมสรสุขภาพจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วก่อนฤดูร้อนเสมอ

โดยให้ความสำคัญกับสิ่งต่างๆ เช่น โรคอ้วนในเด็ก อัตราโรคที่สูงขึ้น และแม้แต่ผลกระทบของสารเคมีในอาหารของเรา เมนูการนับแคลอรี่ ข้อจำกัดเกี่ยวกับขนาดโซดา และอาหารออร์แกนิกจะยังคงดึงดูดความสนใจของเราต่อไป

ก่อนที่คุณจะหยุดอ่าน ไม่ต้องกังวล ฉันจะไม่เน้นเซลลูไลท์ที่คุณอาจจะหรืออาจจะไม่พกติดตัว ฉันจะไม่บังคับให้คุณออกกำลังกายแบบลงโทษหนักมาก และฉัน จะไม่ขอให้คุณล้างสารพิษทั้งหมดออกจากร่างกายโดยอาศัยอะไรเป็นอย่างอื่นนอกจากของเหลวอินทรีย์ในช่วงสามสัปดาห์ข้างหน้า แต่ฉันเพียงต้องการเสนอแนวคิดการลงทุนหลายอย่างที่อาจช่วยให้คุณได้รับผลกำไรจากสิ่งใหม่ๆ และที่นี่เพื่อให้มีการเคลื่อนไหวที่มีสุขภาพที่ดี ตอนนี้ฟังดูไม่เลวเลยใช่ไหม ก่อนที่ฉันจะพูดถึงหุ้นจริงๆ ฉันต้องการเน้นว่าขอบเขต “การใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพ” นั้นกว้างอย่างไม่น่าเชื่อ ดังนั้น นี่จึงไม่ใช่รายการที่สมบูรณ์ของหุ้นที่สามารถ (และจะ) ได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวนี้ แต่ฉันพยายามเน้นชื่อบางชื่อที่ฉันคิดว่า “ดีที่สุดในระดับเดียวกัน” ในส่วนต่างๆ ของการเคลื่อนไหวของไลฟ์สไตล์นี้

อาหารทั้งหมด คุณไม่สามารถพูดถึงการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพได้หากไม่ได้เริ่มต้นด้วย Whole Foods (WFM) ผู้ค้าปลีกอาหารธรรมชาติและอาหารออร์แกนิกที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีร้านค้า 343 แห่งในสหรัฐอเมริกา แคนาดา และสหราชอาณาจักร โฮลฟู้ดส์ไม่มีการแข่งขันที่แท้จริงเมื่อพูดถึงร้านขายของชำออร์แกนิกอย่างแท้จริง ในขณะที่ผู้ค้าปลีกรายใหญ่เช่น Wal-Mart (WMT), Target (TGT), Costco (COST), Kroger (KR) และ Safeway (SWY)

ได้เพิ่มข้อเสนอออร์แกนิกของพวกเขาเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอนในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา หลายร้อยข้อเสนอจากธรรมชาติทั้งหมดของพวกเขา เป็นถั่วลิสงธรรมชาติทั้งหมดเมื่อเทียบกับที่โฮลฟู้ดส์มีอยู่หลายพันชนิด ไม่ต้องพูดถึง ชื่อก่อนหน้านี้ทั้งหมดถูกกล่าวหาว่าไม่เพียงแค่ขายอาหารออร์แกนิกคุณภาพต่ำจากฟาร์มของโรงงานเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการติดฉลากผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพเป็นออร์แกนิกผิดอีกด้วย

ข้อเสียที่ใหญ่ที่สุดสำหรับ Whole Foods ในขณะนี้เมื่อเทียบกับร้านขายของชำอื่น ๆ  เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก    ที่กล่าวถึงคือความพร้อมใช้งาน (หรือขาด) ของผลิตภัณฑ์เนื่องจากมีร้านค้าน้อยลง แน่นอนว่านักลงทุนที่รอบรู้จะสังเกตเห็นได้อย่างรวดเร็วว่านี่ไม่ใช่ข้อเสียเลย แต่เป็นโอกาสในการขยายตัว ด้วยยอดขายอาหารออร์แกนิกเติบโตที่ 9.4% (เทียบกับ 4.7% สำหรับอาหารทั่วไป) และผ่านเครื่องหมาย 3 หมื่นล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในปี 2554 จึงค่อนข้างง่ายที่จะเห็นคุณค่าที่ Whole Foods นำเสนอ และด้วยสมาคมการค้าออร์แกนิก [OTA]

ระบุว่ายอดขายอาหารออร์แกนิกในขณะนี้คิดเป็น 4.2% ของยอดขายอาหารทั้งหมดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 4% ในปี 2010 และยอดขายอาหารออร์แกนิกและที่ไม่ใช่อาหารจะยังคงเติบโตต่อไปประมาณ 9% สำหรับ ในอีกสองสามปีข้างหน้า มีศักยภาพการเติบโตที่ชัดเจนสำหรับผู้ค้าปลีกผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติทั้งหมด นั่นคือ Whole Foods และจำไว้ว่า เมื่อคุณซื้ออาหารและสินค้าออร์แกนิก คุณไม่เพียงแต่ช่วยตัวเองเท่านั้น คุณยังช่วยเหลือสัตว์และสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ประชาชนตกหลุมรัก NHS หรือไม่

ประชาชนตกหลุมรัก NHS เมื่อต้นปีที่ผ่านมา The King’s Fund และ The Nuffield Trust ได้เผยแพร่ผลการสำรวจทัศนคติทางสังคมของอังกฤษในปี 2021 ซึ่งถามประชาชนถึงมุมมองเกี่ยวกับบริการด้านสุขภาพและการดูแลสุขภาพ ผลลัพธ์ที่ได้นั้นชัดเจนและความพึงพอใจของทุกคนลดลงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน แต่เราสามารถสรุปได้ว่ามีการแตกหักขั้นพื้นฐานในความสัมพันธ์ระหว่าง NHS และสาธารณะหรือไม่ ความพึงพอใจโดยรวมต่อ NHS ลดลงเหลือ 36 เปอร์เซ็นต์ ลดลง 17 เปอร์เซ็นต์จากปี 2020 ถึง 2021

ซึ่งเป็นระดับความพึงพอใจต่ำสุดที่บันทึกไว้ตั้งแต่ปี 1997 ความพึงพอใจต่อบริการส่วนบุคคลลดลงสู่ระดับต่ำสุดที่บันทึกไว้นับตั้งแต่การสำรวจเริ่มขึ้นในปี 1983

การลดลงอย่างรวดเร็วที่สุดคือความพึงพอใจต่อบริการของ GP ซึ่งลดลงถึง 38 เปอร์เซ็นต์ ลดลง 30 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับปี 2019 การสำรวจครั้งแล้วครั้งเล่าที่ดำเนินการตั้งแต่นั้นมาก็บอกเล่าเรื่องราวที่คล้ายกัน งานที่จัดทำโดย Ipsos MORI สำหรับ Health Foundation พบว่าน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของผู้ตอบแบบสอบถามคิดว่า NHS ให้บริการที่ดีในระดับประเทศ (ร้อยละ 43)

หรือในระดับท้องถิ่น (ร้อยละ 42) ข้อมูลล่าสุดในตัวติดตาม YouGov บ่งชี้ว่าสิ่งต่าง ๆ เลวร้ายลงมากตั้งแต่การสำรวจทัศนคติทางสังคมของอังกฤษดำเนินการเมื่อปีที่แล้ว

บางครั้งพายุหิมะของข้อมูลอาจทำให้เรามึนงงกับเรื่องราวเบื้องหลังตัวเลข มีผู้คนทุกข์ทรมานและแย่ลงเพราะไม่สามารถรับการรักษาที่ต้องการได้ ผลลัพธ์ไม่ควรน่าแปลกใจ ภาพลักษณ์ของผู้ใช้บริการ NHS จำนวนมากในตอนนี้ช่างเลวร้าย ขณะนี้มีคนอังกฤษมากกว่า 7 ล้านคน (หรือประมาณ 1 ใน 10 ของประชากร)

อยู่ในรายชื่อรอการรักษาในโรงพยาบาล ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2565 ผู้คนเกือบ 33,000 คนรอ A&E นานกว่า 12 ชั่วโมงสำหรับเตียงในโรงพยาบาล ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าเวลานี้เกือบ 7 เท่าของปีที่แล้ว และความท้าทายในการเข้าถึงบริการปฐมภูมิได้รับการบันทึกไว้อย่างดี

บางครั้งพายุหิมะของข้อมูลอาจทำให้เรามึนงงกับเรื่องราวเบื้องหลังตัวเลข มีผู้คนทุกข์ทรมานและแย่ลงเพราะไม่สามารถรับการรักษาที่ต้องการได้ ดังที่ The King’s Fund กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้เพื่อตอบสนองต่อชุดสถิติ NHS ที่น่าหดหู่ล่าสุดบริการของ NHS กำลังเผชิญกับความท้าทายที่ร้ายแรงซึ่งส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยและคุณภาพและความทันเวลาของการดูแลที่พวกเขาได้รับ รวมถึงอาคารที่ผุพังและอุปกรณ์ที่ล้าสมัย รายการรอการดูแลที่ยาวนาน โควิด-19 ในระดับสูง และการขาดแคลนพนักงานที่เพิ่มขึ้น สถิติประสิทธิภาพของ NHS ที่แย่ลงเหล่านี้รวมกับความพึงพอใจของประชาชนที่มีต่อ NHS และบริการของ NHS ที่ลดลงอย่างมากทำให้นักวิจารณ์บางคนสรุปว่าประชาชนตกหลุมรัก NHS และตอนนี้เป็นเวลาที่จะพิจารณาว่าทางเลือกอื่นอาจมีลักษณะอย่างไร . ปัญหาของการเล่าเรื่องนี้คือไม่ได้สะท้อนสิ่งที่สาธารณชนกำลังบอกเราจริงๆ

ขณะนี้มีความคับข้องใจและความโกรธอย่างมากในสถานะของ NHS ความคับข้องใจส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่การขาดการเข้าถึงการรักษาที่ทันท่วงที นอกจากนี้ยังมีการรับรู้อย่างชัดเจนว่า NHS และเจ้าหน้าที่อยู่ภายใต้ความกดดันในแบบที่ไม่เคยได้รับมาก่อน และ NHS ไม่มีบุคลากรที่จำเป็นในการดูแลผู้ป่วยตามที่คาดหวัง อย่างไรก็ตาม สิ่งเหล่านี้ไม่ได้แปลว่าต้องการรูปแบบการระดมทุนที่แตกต่างกัน

การสำรวจทัศนคติทางสังคมของอังกฤษแสดงให้เห็นว่าผู้ตอบแบบสำรวจส่วนใหญ่เห็นพ้องต้องกันว่า NHS ควรให้บริการฟรีเมื่อคุณต้องการ (ร้อยละ 94) NHS ควรได้รับเงินสนับสนุนผ่านภาษีเป็นหลัก (ร้อยละ 86) และ NHS ควรมีให้บริการ ให้กับทุกคน (84 เปอร์เซ็นต์) มูลนิธิสุขภาพได้บันทึกข้อมูลที่คล้ายคลึงกันมากสำหรับคำถามเดียวกัน และพบว่า 77 เปอร์เซ็นต์ของผู้คนเชื่อว่า ระบบสุขภาพแห่งชาติมีความสำคัญต่อสังคมอังกฤษ และเราต้องทำทุกอย่างเพื่อรักษาไว้ข้อมูลชัดเจนว่าประชาชนไม่ต้องการรูปแบบการระดมทุนที่แตกต่างกัน

สำหรับ NHS พวกเขาต้องการเพียงระบบที่เรามีอยู่แล้วให้ใช้งานได้ และขณะนี้ยังไม่เกิดขึ้น ปี 2023 เป็นวันครบรอบวันเกิดปีที่ 75 ของ NHS และไม่ต้องสงสัยเลยว่าคอลัมน์จำนวนมากจะทุ่มเทให้กับการพิจารณาว่าถึงเวลาสำหรับรุ่นอื่นหรือไม่ แต่การโต้แย้งว่าเป็นเพราะประชาชนหมดรัก NHS นั้นผิด ในเดือนเมษายน พ.ศ. 2565 Ipsos MORI ได้ถามสาธารณชนว่าสิ่งใดที่ทำให้พวกเขาภูมิใจในความเป็นอังกฤษมากที่สุด คำตอบอันดับต้น ๆ ที่ได้รับจากผู้คน 62 เปอร์เซ็นต์คือ NHS ซึ่งเพิ่มขึ้น 12 เปอร์เซ็นต์ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 ความรักของประชาชนที่มีต่อ NHS กำลังถูกทดสอบอย่างหนัก แต่ก็ยังห่างไกลจากความล้มเหลว

 

สนับสนุนโดย.  เครื่องช่วยฟังขนาดเล็ก

กาฬโรคทำให้เกิดวิวัฒนาการของยีนภูมิคุ้มกัน

ซึ่งกำหนดวิธีการที่เราตอบสนองต่อโรคในปัจจุบัน ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติที่วิเคราะห์ดีเอ็นเออายุหลายศตวรรษจากเหยื่อ

และผู้รอดชีวิตจากโรคระบาดกาฬโรคได้ระบุความแตกต่างทางพันธุกรรมที่สำคัญซึ่งกำหนดว่าใครมีชีวิตและใครตาย และลักษณะดังกล่าวของระบบภูมิคุ้มกันของเรามีวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา นักวิจัยจาก McMaster University, University of Chicago, Pasteur Institute และองค์กรอื่น ๆ

ได้วิเคราะห์และระบุยีนที่ปกป้องยีนบางส่วนจากกาฬโรคที่ระบาดไปทั่วยุโรป เอเชีย และแอฟริกาเมื่อเกือบ 700 ปีที่แล้ว การศึกษาของพวกเขาได้รับการตีพิมพ์ในวารสาร Nature

นักวิจัยรายงานว่า ยีนแบบเดียวกับที่เคยให้การป้องกันกาฬโรคในปัจจุบันมีความเกี่ยวข้องกับความไวต่อโรคภูมิคุ้มกันทำลายตนเอง เช่น โรคโครห์นและโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ทีมงานมุ่งเน้นไปที่หน้าต่าง 100 ปีก่อน ระหว่าง และหลังกาฬโรค ซึ่งมาถึงลอนดอนในช่วงกลางทศวรรษ 1300 มันยังคงเป็นเหตุการณ์การตายของมนุษย์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ที่บันทึกไว้ โดยคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่ที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดของโลกในขณะนั้น

ตัวอย่างดีเอ็นเอโบราณมากกว่า 500 ตัวอย่างถูกสกัดและคัดกรองจากซากศพของบุคคลที่เสียชีวิตก่อนเกิดโรคระบาด เสียชีวิตหรือรอดชีวิตจากกาฬโรคในลอนดอน

รวมถึงบุคคลที่ฝังอยู่ในหลุมโรคระบาด East Smithfield ที่ใช้ฝังศพจำนวนมากในปี 1348-9 . ตัวอย่างเพิ่มเติมถูกนำมาจากซากศพที่ถูกฝังในสถานที่อื่นๆ อีก 5 แห่งทั่วเดนมาร์ก นักวิทยาศาสตร์ค้นหาสัญญาณของการปรับตัวทางพันธุกรรมที่เกี่ยวข้องกับโรคระบาด ซึ่งเกิดจากแบคทีเรีย Yersinia pestis พวกเขาระบุยีน 4 ยีนที่อยู่ระหว่างการคัดเลือก ซึ่งทั้งหมดเกี่ยวข้องกับการผลิตโปรตีนที่ปกป้องระบบของเราจากการบุกรุกของเชื้อโรค และพบว่าเวอร์ชันของยีนเหล่านั้นที่เรียกว่า อัลลีล ไม่ว่าจะป้องกันหรือทำให้ยีนอ่อนแอต่อโรคระบาด

บุคคลที่มียีนเฉพาะ 2 สำเนาที่เหมือนกันหรือที่เรียกว่า ERAP2 รอดชีวิตจากโรคระบาดในอัตราที่สูงกว่าคนที่มีสำเนาชุดตรงข้ามมาก เนื่องจากสำเนาที่ ‘ดี’ ทำให้เซลล์ภูมิคุ้มกันวางตัวเป็นกลางของ Y. pestis ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น “เมื่อเกิดโรคระบาดในลักษณะนี้ คร่าชีวิตประชากรไป 30 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์ จะต้องมีการเลือกอัลลีลป้องกันในมนุษย์ ซึ่งกล่าวได้ว่าผู้คนที่อ่อนแอต่อเชื้อโรคที่แพร่กระจายจะยอมจำนน แม้เพียงเล็กน้อย ความได้เปรียบหมายถึงความแตกต่างระหว่างการอยู่รอดหรือผ่านไป

แน่นอนว่าผู้รอดชีวิตเหล่านั้นที่อยู่ในวัยผสมพันธุ์จะส่งต่อยีนของพวกเขา” เฮนดริก พอยนาร์ นักพันธุศาสตร์เชิงวิวัฒนาการ ผู้เขียนบทความ Nature ผู้อำนวยการศูนย์ดีเอ็นเอโบราณของ McMaster และผู้ตรวจสอบหลักอธิบาย ร่วมกับ Michael G. DeGroote Institute for Infectious Disease Research และ McMaster’s Global Nexus for Pandemics & Biological Threats

ชาวยุโรปที่อาศัยอยู่ในช่วงเวลาที่เกิดโรคกาฬโรคนั้นมีความเสี่ยงสูงในขั้นต้น เนื่องจากพวกเขาไม่เคยสัมผัสกับเชื้อ Yersinia pestis เมื่อเร็วๆ นี้ เมื่อคลื่นของโรคระบาดเกิดขึ้นครั้งแล้วครั้งเล่าในศตวรรษต่อมา อัตราการตายก็ลดลง นักวิจัยประเมินว่าผู้ที่มีอัลลีลป้องกัน ERAP2 (สำเนาที่ดีของยีนหรือลักษณะ) มีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าคนที่ไม่มี 40 ถึง 50 เปอร์เซ็นต์

Luis Barreiro นักพันธุศาสตร์มนุษย์ ผู้เขียนรายงานกล่าวว่า “ข้อได้เปรียบในการคัดเลือกที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งที่เลือกนั้นเป็นหนึ่งในตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดที่เคยมีรายงานในมนุษย์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าเชื้อโรคเพียงตัวเดียวสามารถมีผลกระทบอย่างมากต่อวิวัฒนาการของระบบภูมิคุ้มกันได้อย่างไร” Luis Barreiro นักพันธุศาสตร์มนุษย์ ศาสตราจารย์ด้านพันธุศาสตร์เวชศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก

 

สนับสนุนโดย.    เครื่องช่วยฟังโรงพยาบาลรัฐ